เจ้า ของร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ แฉ นักศึกษาไทยถูกบริษัทร่วมโครงการ Work&Travel ต้ม หลังเขียนรายละเอียดสุดหรู แต่ความจริงคือ ยังหางานไม่ได้ ที่พักอัตคัด หวิดถูกข่มขืน
เมื่อวานนี้ (5 เมษายน) ผู้สื่อข่าวทราบว่า มีนักศึกษาหญิงชาวไทยจำนวน 13 คน ซึ่งเดินทางไปทำงานในโครงการ Work&Travel ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีปัญหาในเรื่องที่พักและการทำงาน จึงได้ติดต่อสอบถามนายวิรัตน์ เจริญวราวุฒิ เจ้าของร้านอาหารไทยอะโรม่า เมืองอัลลิค็อทท์ รัฐแมร์รี่แลนด์ ได้ความว่า นายวิรัตน์เจอนักศึกษาหญิงทั้ง 13 คน แต่ละคนมีดีกรีเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย อายุประมาณ 19-20 ปี ซึ่งถูกคนจัดโครงการนำไปพักอาศัยในย่านดาวน์บัลติมอร์ ที่เป็นย่านของคนผิวสีที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ บ้านที่เด็กทั้ง 13 คนอยู่นั้นเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ห้องน้ำห้องเดียว ห้องนอนอยู่ห้องละ 4-5 คน โดยนำเตียงเดี่ยวมาเรียงติดกัน ทำให้ทางเดินแคบ ส่วนห้องครัวก็เล็กจนไม่มีพื้นที่ทานข้าว เล็กกว่าห้องส้วมโรงแรมเสียอีก ขณะเดียวกัน ในตัวบ้านก็มีกลิ่นเหม็น เนื่องจากเจ้าของบ้านเลี้ยงแมวเอาไว้ แล้วพำนักอยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งในแต่ละเดือน เด็ก ๆ ต้องจ่ายเดือนละ 320 ดอลลาร์ (9,600 บาท), ค่ามัดจำ 150 ดอลลาร์ (4,500 บาท)
ขณะเดียวกัน ในเรื่องของการทำงาน ผู้จัดโครงการก็ไม่สามารถหางานให้เด็กทำได้ตามที่กล่าวไว้ ทำให้เด็กบางคนไม่มีงานทำ บางคนก็ได้ทำงานแค่ 4 ชั่วโมง โดยที่เดินทางไปทำงานไกล นอกจากนี้ ยังมีข่าวอีกว่า สอง คืนที่แล้วนักศึกษาสาวคนหนึ่งถูกคนผิวดำฉุดแขนตรงราวบันไดในบ้านพัก ซึ่งนายวิรัตน์มองว่า หากเด็กอยู่ครบ 3 เดือน อาจจะถูกข่มขืนได้ ดัง นั้นก็อยากจะโทรไปสถานกงสุลไทย เผื่อจะช่วยอะไรแก่เด็กเหล่านี้ได้บ้าง หรือถ้าเด็กคนใดทนไม่ไหวจริง ๆ จะมาอยู่ที่บ้านตนก็ได้ ตนไม่คิดค่าเช่า
สำหรับโครงการ Work&Travel เป็นโครงการแลกเปลี่ยนระดับอุดมศึกษา มีบริษัท และองค์กรคอยประสานเรื่องการหางานและที่พักให้ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะไปทำงานในช่วงปิดภาคเรียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างถูกกฎหมาย ระยะเวลา 2-4 เดือน ซึ่งนักศึกษาสามารถเที่ยวสหรัฐฯ ได้อีก 1 เดือนด้วย หลังจากที่สิ้นสุดการทำงานแล้ว