หวั่นลดรับ ม.1 ปั่นแป๊ะเจี๊ยะพุ่ง


     ล่าสุด นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การรับนักเรียนชั้น ม.1 และม.4 ต้องมีความสัมพันธ์กันเพราะเป็น ม.ต้น กับม.ปลาย หากย้อนดูข้อมูลก่อนหน้านี้ เด็กที่เข้าเรียนชั้น ม.1 ไม่
ค่อยมีปัญหาเพราะมีการแข่งขันตามกติกา โดยโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง มีนักเรียนมาสมัครเกินที่นั่งที่จะรับได้ โรงเรียนจะต้องจัดสรรที่นั่งให้เด็กในเขตพื้นที่บริการไม่น้อย 50% และส่วนที่เหลือก็จัดให้เด็กทั่วไป หรือเด็กนอกเขตพื้นที่บริการ       ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ปีการศึกษา 2556 ระหว่างวันที่ 14-18 มี.ค.56 และปีนี้สพฐ.ยังประกาศให้โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ลดจำนวนรับนักเรียน ม.1 น้อยกว่าทุกปีนั้น
      เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ส่วนชั้น ม.4 ซึ่งเป็นรอยต่อจะมีทั้งเด็ก ม.3 จากโรงเรียนเดิม และจากโรงเรียนอื่นที่ประสงค์จะเข้าเรียนโรงเรียนอัตราการแข่งขันสูง ปีนี้ก็ต้องดูแลเด็กทั้ง 2 กลุ่ม โดยได้นำกรณีของโรงเรียนบดินทร์เดชามาเป็นตัวตั้ง และแจ้งให้นักเรียนที่จะจบชั้น ม.3 มีความประสงค์จะเข้า ม.4 โรงเรียนเดิมทราบล่วงหน้าว่าจะต้องเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.00 รวมถึงกำหนดจำนวนรับ โดยให้นำจำนวนเด็ก ม.3 ที่คาดว่าจะมีเกรดเฉลี่ยถึง 2.00 ที่ประสงค์จะเรียนต่อโรงเรียนเดิมมาเป็นตัวตั้งและคิดเป็น 80% ของที่นั่ง เหลืออีก 20% ให้เปิดรับเด็กทั่วไป
     "เรื่องนี้เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว เพราะถ้าเราลดจำนวนรับ ม.1ลงได้อีก3 ปีข้างหน้าก็จะไม่เป็นคอขวดที่ชั้น ม.4 แต่เขตพื้นที่ฯ และโรงเรียนที่มีอัตราแข่งขันสูง จะต้องไปประสานกับโรงเรียนในเขตพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะโรงเรียนสังกัด กทม.ที่มีอยู่ 400 แห่ง เพื่อกระจายโอกาสเรียนต่อ ม.1 ส่วนที่กังวลว่าหากลดจำนวนรับ ม.1 น้อยลงเงินบริจาคจะสูงขึ้นนั้น ผมย้ำทุกปีเรื่องการบริจาคเงินแลกที่นั่งเข้าเรียนนั้นขัดต่อระเบียบและกฎหมาย ซึ่งจะไม่มีการระดมและบริจาคอะไรในช่วงการรับนักเรียน และขณะนี้ก็มีองค์กรเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้อยู่แล้ว"
     นายชินภัทร กล่าวและว่า สำหรับการประกาศผล O-NET ในวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งช้ากว่าปฏิทินรับนักเรียนหนึ่งวันนั้น สพฐ.จะเดินหน้ารับนักเรียนตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. และเมื่อ สทศ.ประกาศผลในวันที่ 15 มี.ค. ก็ขอให้โรงเรียนเข้าไปตรวจคะแนน O-NET ของเด็กผ่านเว็บไซต์ สทศ. www.niets.or.th โดยเข้าไปที่เมนู RPS และกรอกเลขประจำตัวประชาชนของนักเรียน เพื่อนำคะแนน O-NET มาใช้พิจารณาเข้าเรียนต่อได้เลย และวันที่ 13 มี.ค.นี้ จะจัดประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนท์กับผอ.เขตมัธยมฯ และผอ.โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง เพื่อชี้แจงแนวปฏิบัติให้เป็นไปในทางเดียวกัน