เลื่อนเปิดเทอม ร.ร.สพฐ 10 มิ.ย. รองรับมหา'ลัย

UploadImage


เลื่อนเปิดเทอม ร.ร.สพฐ 10 มิ.ย. รองรับมหา'ลัย- ผู้ปกครองยันไม่กระทบนักเรียน จี้ม.ทั่วปท.ขยับ 'รับตรง' หลังมี.ค.


          นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิด เผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ปกครอง และนักเรียน ถึงการเลื่อนเปิด และปิดภาคเรียนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หลังจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติให้มหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิก ทปอ. 21 แห่ง เลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ไปในช่วงกลางเดือนสิงหาคม-กันยายน ของแต่ละปี ตามกลุ่มประเทศในประชาคมอาเซียน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เอซี) ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปเบื้องต้นร่วมกันว่า สพฐ.จะเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จากเดิมวันที่ 16 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันที่ 10 มิถุนายน ซึ่งเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปจากเดิมประมาณ 24 วัน สำหรับมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกของ ทปอ. 21 แห่ง ส่วนใหญ่จะเปิดภาคเรียนในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ถือเป็นเรื่องดีที่มหาวิทยาลัยไม่ยืดการเปิดภาคเรียนไปถึงเดือนกันยายน เพราะทำให้ระยะเวลาห่างของการเปิดภาคเรียนระหว่างการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาระดับอุดมศึกษาลดลง

          "การประชุมหารือกันในวันนี้ เสียง ตอบรับจากฝ่ายต่างๆ เกี่ยวกับการเลื่อนเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 10 มิถุนายน เป็นไปในทางบวก โดย ผู้ปกครองเห็นว่าการเลื่อนเปิดในวันดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อชีวิตของเด็กมากนัก ซึ่งผู้ปกครองรับได้ อีกทั้งกิจกรรมวันสำคัญต่างๆ ก็ไม่ได้มีผลกระทบ ยกเว้นบางโรงเรียนมีกิจกรรมไหว้ครูในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายน ก็อยู่ในวิสัยของโรงเรียนที่อาจจะต้องปรับวันทำกิจกรรมออกไป" นายชินภัทรกล่าว


          นายชินภัทร กล่าวว่า ทั้งนี้ ข้อสรุปในเบื้องต้นที่จะเลื่อนเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 10 มิถุนายน ของทุกปี จะต้องนำไปสำรวจความคิดเห็นในวงกว้างให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นจะทำเป็นข้อเสนอให้แก่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณาเห็นชอบ ก่อนจะแจ้งให้สถานศึกษา ผู้ปกครอง และนักเรียนได้รับทราบล่วงหน้าในช่วงเดือนมกราคมกุมภาพันธ์ 2556


          นายชินภัทร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้สะท้อนถึงการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาใน ระบบรับตรงของมหาวิทยาลัยต่างๆ เพราะที่ผ่านมาต้องการลดภาระให้เด็กไม่ต้องวิ่งรอกสอบหลายที่ จึงได้เกิดรูปแบบการรับรับตรงร่วมกัน โดยจะเปิดการรับตรงในช่วงเดือนกรกฎาคม แต่เกิดปัญหาเนื่องจากทำให้นักเรียนชั้นมัธยมปลายได้ที่เรียนในระดับอุดม ศึกษาได้เร็ว ทั้งๆ ที่ยังไม่จบการศึกษา จึงทำให้เด็กทิ้งการเรียนในห้องเรียนในภาคเรียนสุดท้าย ดังนั้น ทปอ.จึงมีมติเพิ่มเติมขอให้มหาวิทยาลัยเปิดการรับตรงตั้งแต่เดือนมกราคมเป็น ต้นไป โดยนักเรียนที่เข้าร่วมหารือเห็นว่าถ้าจะให้ดีที่สุด ควรเลื่อนการเปิดรับตรงหลังจากที่นักเรียนเรียนจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้น ฐานแล้วประมาณเดือนมีนาคม เพราะไม่อยากให้มีหลายมาตรฐาน เนื่องจากที่ผ่านมาเด็กกลุ่มหนึ่งมีที่เรียน ทำให้มาเรียนแบบไม่ตั้งใจเรียน แต่อีกกลุ่มหนึ่งยังไม่มีที่เรียน ทำให้เรียนด้วยความเครียด และบางโรงเรียนที่นักเรียนยังไม่มีที่เรียน จะขาดเรียนเพื่อไปเรียนกวดวิชา
 





ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน