นักกฎหมายล้น-คดีไม่ลด ชงปรับเนื้อหาเนติบัณฑิต

นักกฎหมายล้น-คดีไม่ลด ชงปรับเนื้อหาเนติบัณฑิต
จาก การประชุมทางวิชาการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ประจำปี 2555 เรื่อง "บทบาทของสภาวิชาชีพที่มีต่อการรับรองหลักสูตร และการจัดการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษา" เมื่อเร็วๆ นี้
     นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รอง อธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ได้กล่าวนำเสนอข้อสรุปของกลุ่มวิชาชีพนิติศาสตร์ ต่อที่ประชุมว่า คณะนิติศาสตร์ มีสภาวิชาชีพกำกับดูแล 2 องค์กร คือ สภาทนายความ และสำนักอบรมศึกษากฎหมายเนติบัณฑิตแห่งรัฐสภา โดยที่ประชุมมีข้อเสนอให้ทั้ง 2 สภาวิชาชีพ ดำเนินการรับรองหลักสูตรใหม่ให้เร็วขึ้น หลังมีปัญหานักศึกษาศึกษาเรียนจบแล้ว แต่หลักสูตรที่เรียนอยู่ระหว่างการรับรอง พร้อมเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เมื่อดำเนินการรับทราบหลักสูตรแล้ว ให้ส่งผลการรับรองไปยังสภาวิชาชีพโดยตรง เพราะที่ผ่านมาเกิดการสับสนของสถานศึกษา ในการแยกส่งหลักสูตรไปให้ สกอ.และสภาวิชาชีพรับรอง ซึ่งมักจะมีคำถามจาก สกอ.ว่าหลักสูตรที่ส่งมานั้น ผ่านการรับรองจากสภาวิชาชีพหรือยัง
     นายปริญญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้เสนอให้ปรับเนื้อหาการเรียนการสอนหลักสูตรเนติบัณฑิต ที่มีข้อจำกัด จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของรัฐธรรมนูญบ่อยครั้ง หรือคิดเป็น 4 ปีต่อฉบับ ทำให้การเรียนการสอนนิติศาสตร์ปัจจุบัน ต้องไปเน้นเรียนกฎหมายแพ่งและอาญา ขณะที่กฎหมายรัฐธรรมนูญ เพิ่งจะมาเน้นเรียนจริงจังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉะนั้น การสอบเนติบัณฑิต เองจะต้องปรับปรุงเนื้อหาการสอบด้วย ขณะเดียวกันยังเสนอให้มีการจัดทำรายละเอียดการรับรองหลักสูตรนิติศาสตร์ และสถานศึกษาของสภาวิชาชีพด้วย เพราะปัจจุบันเกณฑ์การรับรองระบุไว้ชัดเจนว่า สถานศึกษาต้องยึดถือจัดการเรียนการสอนนิติศาสตร์ให้มีมาตรฐานเทียบเท่า ม.ธรรมศาสตร์ จุฬาฯ และ ม.รามคำแหง แต่ไม่ชัดเจนในรายละเอียด
     "ปัจจุบัน ประเทศไทยมีนักกฎหมายเพิ่มขึ้นเป็น 3-4 แสนคน มีคดีความอยู่ในศาล 1.2 ล้านคดี มีผู้ถูกดำเนินคดีติดห้องขัง 2.4 แสนคน ซึ่งในจำนวนนี้แยกเป็นผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี 9 หมื่นคน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการที่มีคณะนิติศาสตร์มาก ยิ่งมีคดีความสู่ศาลมากเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นคำถามของคณะนิติศาสตร์ในการผลิตนักกฎหมาย 3-4 แสนคน แต่ไม่สามารถสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นกับสังคมได้ อย่างไร ก็ตาม ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า ต่อจากนี้กลุ่มคณะนิติศาสตร์ จะต้องมีการจัดประชุมต่อเนื่อง ถึงทิศทางการผลิตนักกฎหมาย การจัดการเรียนการสอนซึ่ง ม.ธรรมศาสตร์ รับจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งแรก" นายปริญญา กล่าว


ที่มา   http://www.siamrath.co.th