"ชินภัทร" ใช้ 'โอเน็ต' ถ่วงน้ำหนัก 'จีพีเอ' ยันไม่ใช่เงื่อนไขจบช่วงชั้น

   นาย ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า หลังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ออกประกาศเรื่องการใช้ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนที่จบการศึกษาตามหลัก สูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมต้น และมัธยมปลาย โดยจะใช้ผลการเรียนของผู้เรียนที่ประเมินโดยสถานศึกษา และคะแนนโอเน็ต สัดส่วน 80 : 20 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 เป็นต้นไปนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขอทำความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครอง ว่าประกาศ ศธ.ดังกล่าวระบุชัดเจนว่าโอเน็ตไม่ได้เป็นเงื่อนไขของการจบช่วงชั้น แต่เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของนักเรียน ดังนั้น คะแนนเฉลี่ยสะสมรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ (จีพีเอ) จะต้องได้รับการถ่วงน้ำหนักจากคะแนนโอเน็ต
          "เราจำเป็นต้องถ่วงน้ำหนัก เพื่อให้มาตรฐานในการวัดและประเมินผลในระดับชาติมีส่วนในการปรับการให้คะแนน ของโรงเรียนด้วย ดังนั้น หากโรงเรียนใดมีการวัดผลที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานใกล้เคียงกับคะแนนโอเน็ตมากๆ โอกาสที่นักเรียนจะได้คะแนนเฉลี่ยใกล้เคียงกับจีพีเอที่ได้รับจากโรงเรียนก็ จะมีสูง แต่หากโรงเรียนใดปล่อยเกรด จะทำให้คะแนนจีพีเอของนักเรียนลดลง เนื่องจากโรงเรียนอาจจะให้เกรดสูงเกินไป" นายชินภัทรกล่าว
          ผู้สื่อข่าวถามว่า นักเรียนทุกคนจำเป็นต้องสอบโอเน็ตหรือไม่ นายชินภัทรกล่าวว่า สพฐ.ไม่ได้บังคับ แต่ถ้านักเรียนคนใดไม่สอบก็จะไม่มีค่าน้ำหนัก 20% มาถ่วงน้ำหนักคะแนนจีพีเอ ซึ่งปัจจุบันเป็นยุคที่ทุกคนต้องใช้ความพยายามในการรักษาสิทธิของตนเอง อีกทั้งทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าในระบบการรับเข้าศึกษาต่อในชั้นเรียนที่ สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชั้น ม.1, ม.4 และระดับอุดมศึกษา มีเงื่อนไขใช้คะแนนโอเน็ตพิจารณาเข้าเรียน ดังนั้น ทุกคนมีหน้าที่รักษาสิทธิของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา นักเรียนที่ไม่เข้าสอบโอเน็ต ส่วนใหญ่มีเหตุสุดวิสัย
          "ปีนี้ สพฐ.จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ว่าในเมื่อกำหนดให้นำผลคะแนนโอเน็ตไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้น สทศ.จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสมีคะแนนโอเน็ต โดยจะต้องเตรียมการจัดสอบ โอเน็ตรอบพิเศษ สำหรับนักเรียนที่มีเหตุสุดวิสัย ซึ่งที่ประชุมได้มอบให้ สทศ.ไปพิจารณาแล้ว" นายชินภัทร กล่าว.

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน