แนะเรียนมหาวิทยาลัยเลือกคณะตามความถนัด

UploadImage

นักวิชาการชี้คณะที่มาแรงในแอดมิชชั่นน่าจะเป็นทางด้านภาษา และหลักสูตรเกี่ยวข้องอาเซียน พร้อมแนะนักเรียนเลือกคณะตามที่ตัวเองถนัดและชอบ เผยวารสารศาสตร์ยอดเรียนตกฮวบ


รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) เปิดเผยถึงการเลือกคณะในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วย ระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือแอดมิชชั่น ประจำปีการศึกษา2555ของนักเรียน ว่า นักเรียนส่วนหนึ่งจะยังคงติดค่านิยมเดิมๆที่เลือกคณะยอดนิยม เช่น คณะแพทย์ศาสตร์ นิติศาสตร์ แต่คณะที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมเป็นพิเศษน่าจะเป็นคณะทางด้านภาษา ต่าง ๆ  หลักสูตรอาเซียนศึกษา  ความสัมพันธ์ต่างประเทศ รัฐศาสตร์การปกครอง และ ธุรกิจการบิน  เพราะประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558  ซึ่งเด็กที่เข้าเรียนปีนี้จะจบในปี 58 พอดี และตลาดแรงงานต้องการคณะดังกล่าวด้วย
รศ.ดร.สุขุม กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนเฉพาะทางมากขึ้น และเมื่อจบแล้วยังมีงานรองรับทันที  ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายที่เรียนเพื่อมีงานทำก็เลือกช่องทางนี้มากขึ้น  นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเองก็พยายามนำเสนอหลักสูตรด้านธุรกิจบริการ ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ ๆ ให้กับเด็ก เช่น เลขานุการแพทย์ แต่ยังมีคนเรียนน้อยทั้งที่หลักสูตรนี้สามารถแตกยอดไปทำงานได้หลากหลายอาชีพ  ส่วนในแง่ของจำนวนที่นั่งเรียนในมหาวิทยาลัย ตนคิดว่าเด็กสมัยนี้มีทางเลือกมากขึ้นทั้งมหาวิทยาลัยเปิดและปิด มหาวิทยาลัยเอกชน ดังนั้นไม่น่าจะเกิดปัญหาฆ่าตัวตาย เพราะสอบไม่ติดแอดมิชชั่นเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสำหรับนักเรียนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะเลือกคณะใด ตนขอให้ มองกระแสปัจจุบันไปถึงอนาคต ขณะเดียวกันต้องมองด้วยว่าตัวเองชอบและสามารถเรียนในคณะใดได้บ้าง ไม่เช่นนั้นจะเรียนอย่างไม่มีความสุข สุดท้ายต้องออกกลางคันจนทำให้เสียเวลาเรียน
ด้านศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์  อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเด็กจะเลือกเรียนในคณะต่าง ๆจาก 3 ปัจจัย คือปัจจัยที่ 1 เลือกสาขาที่มีชื่อเสียงและมีงานทำ เช่น  คณะแพทย์ศาสตร์  วิศวกรรมศาสตร์ และนิติศาสตร์ ปัจจัยที่ 2 ความชอบ และปัจจัยที่ 3 คะแนนที่เด็กทำได้  อย่างไรก็ตามการที่เด็กเลือกสาขานั้น ๆจำนวนมากก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดได้เสมอไปว่าสาขานั้นเป็นสาขายอดนิยมที่เด็ก ชอบจริง ๆ รวมถึงต้องดูจากตัวเลขการรับตรงของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วย เช่น นิติศาสตร์ มธ. รับตรงไปแล้ว 300-400 คน ดังนั้นยอดรับแอดมิชชั่นจะน้อยลง เด็กอาจสมัครน้อยลง เพราะที่นั่งเหลือน้อย
“ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คณะนิติศาสตร์ และบัญชี ยังเป็นคณะที่มีคนเลือกเรียนจำนวนมาก เพราะจบแล้วมีงานทำแน่นอน และที่สำคัญเงินเดือนสูง  ขณะที่คณะแพทย์มีคนเรียนน้อยลง เพราะช่วงหลังมีปัญหาเรื่องความรับผิดชอบของแพทย์ รวมถึงกรณีการฟ้องร้องมากขึ้น ประกอบกับคะแนนค่อนข้างสูง เด็กอาจจะไปเลือกเรียนสาขาอื่น ส่วนด้านวารสารศาสตร์ เมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมาได้รับความนิยมมาก แต่ปัจจุบันคนนิยมน้อยลงเรื่อย ๆดังนั้นการเลือกคณะนั้นนักเรียนควรจะต้องดูว่าตนมีความสามารถด้านใดเป็น อันดับแรก จากนั้นเลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ เพราะที่ผ่านมาบางคนเรียนตามที่พ่อ แม่ ชอบ แม้สอบเข้าได้ แต่สุดท้ายก็เรียนไม่รอด เพราะใจไม่อยากเรียน” ศ.ดร.สมคิด กล่าว