
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากระดับความน่าเชื่อถือ
สัมภาษณ์กับผู้เขียน The World University rankings : Phil Baty
สัมภาษณ์กับผู้เขียน The World University rankings : Phil Baty
การจัดอันดับมหาวิทยาลัย The World University rankings และเขาจะมาอธิบายเพิ่มเติมว่าการจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากความน่าเชื่อถือนี้ สามารถแสดงอะไรให้เราได้เห็นบ้าง
เห็นได้ว่ามหาวิทยาลัย 6 อันดับแรก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว คุณคิดว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เกิดผลเช่นนี้?
โดยมหาวิทยาลัย 6 อันดับแรกถือว่าเป็นผู้นำในรูปแบบ “Super Brand”
หรือคล้ายๆกับสถานะ “Super Group” ของเหล่ามหาวิทยาลัยต่างๆ
แต่ถึงอย่างนั้น 6
มหาวิทยาลัยนี้ก็เป็นคนละกลุ่มกันกับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกทั่วไป
เป็นไปได้ว่ามหาวิทยาลัยจากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือนี้นี้เป็น
มหาวิทยาลัยที่ฝังอยู่ในความคิดของผู้คนทั่วไป ทำให้ทันทีที่ตอบแบบสำรวจ
ผู้คนก็จะนึกถึงมหาวิทยาลัยเหล่านี้ก่อน
ทำให้มหาวิทยาลัยเหล่านี้ยิ่งใหญ่เกินจริง ซึ่งถือว่าน่าสนใจมากๆ
อันดับเหล่านี้เกิดจากการมีเงินทุนสนับสนุนใช่หรือไม่?
ผลสำรวจนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้ตอบล้วนๆ
เกิดจากนักศึกษาและอาจารย์ที่ถูกถามเพื่อให้คะแนนกับมหาวิทยาลัยที่แตกต่าง
กัน ส่วนในเรื่องการตัดเงินทุนสนับสนุนนั้น
มักจะเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยของอเมริกา โดยเฉพาะแคลิฟอร์เนีย
ที่อาจารย์เก่งๆจะย้ายออกไปเพื่อหางานที่ดีกว่าในมหาวิทยาลัยอื่น
แต่อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าเงินทุนสนับสนุนมีผลอย่างมากต่ออันดับ
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงเห็นมหาวิทยาลัยจากเอเชียมากมายติดอันดับ
โดยตารางค่อนข้างคงที่และไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาก
แต่คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของมหาวิทยาลัยจากเอเชียเสมอ อย่างเช่น
มหาวิทยาลัยจากจีน ที่มีก้าวขึ้นมากถึง 5 อันดับในปีนี้
เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยจากสิงคโปร์,ไต้หวัน และอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกัน
คุณก็จะเห็นมหาวิทยาลัยชื่อดังจากอังกฤษมีอันดับที่ตกลงเล็กน้อย
โดยมหาวิทยาลัยจากอังกฤษ มีเพียงแค่ 10 แห่งที่ติดอันดับ Top 100 ในปีนี้
ซึ่งผมคิดว่าส่วนมากเกิดจากผลของสภาพแวดล้อมในการทำงาน
แต่ถ้าตัดเรื่องของเงินทุนสนับสนุนออกไป อะไรที่มหาวิทยาลัยจากเอเชียเกิดการเปลี่ยนแปลงของอันดับที่แตกต่าง?
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดเรื่องของเงินสนับสนุนออกไป
เพราะว่ามันเงินเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนตัวขับเคลื่อน
โดยมหาวิทยาลัยของจีนและชาติเอเชียอื่นๆนั้น ใช้เงินสนับสนุนการศึกษา,
การเปลี่ยนแปลงเงินเดือนและการเพิ่มการทำวิจัย
เป็นตัวผลักดันองค์ความรู้ของพวกเขาออกไปให้กว้างขึ้น
ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องการเงินทุนสนับสนุนทั้งสิ้น
แบบสำรวจนี้พิจารณาอะไรบ้าง?
แบบสำรวจนี้เป็นการสำรวจที่ธรรมดามาก
โดยเราจะถามนักเรียนและอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาเรียน, ทำวิจัย หรือ
สอนอยู่แล้ว เช่น ถ้าคุณเป็นนักศึกษาของคณะสังคมวิทยา
เราก็จะถามคุณเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนสาขาสังคมวิทยาที่ดีที่สุด
เป็นต้น ดังนั้น ผลที่ออกมาก็จะให้คำตอบที่เกิดจากสิ่งที่คุณรู้จริงๆ
มหาวิทยาลัย
ของอังกฤษอาจจะต้องตกใจกับผลที่ออกมา
คุณคิดว่าผลสำรวจล่าสุดนี้จะสามารถส่งสาระสำคัญไปยังผู้ที่วางนโยบายทางการ
ศึกษาของอังกฤษได้อย่างไรบ้าง?
มันเป็นเรื่องกดดันมาก
เมื่อความสามารถของมหาวิทยาลัยของอังกฤษยังคงได้รับการยอมรับอยู่ในการจัด
อันดับ Top 100 ถึง 10 มหาวิทยาลัย
ซึ่งถือได้ว่าเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของเปอร์เซนต์มหาวิทยาลัยทั้งหมด ดังนั้น
การมีมหาวิทยาลัยถึง 10
แห่งติดอันดับต้นๆถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Oxford และ
Cambridge ที่ถือว่าดีที่สุดในโลก รวมถึง Harvard และ MIT จากอเมริกาด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม
ผลที่ออกมาก็เป็นสัญญาณแล้วว่าพวกเขาจำเป็นต้องระวังให้มากขึ้น
เพราะโลกดูเหมือนจะให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก
และอาจทำให้ความเหนือชั้นของมหาวิทยาลัยจากอังกฤษในระดับโลกต้องตกลงและหาย
ไปในที่สุด แต่นี่เป็นเพียงปีที่ 2
ของการจัดอันดับจากความน่าเชื่อถือเท่านั้น
เรายังต้องการข้อมูลอีกมากในการตัดสิน
ถ้ามหาวิทยาลัยของอังกฤษยังต้องการเป็นผู้นำต่อไป
พวกเขาจำเป็นต้องรักษาปริมาณการรับสมัครนักเรียนต่างชาติต่อไป
และแสดงให้โลกเห็นในฐานะเป็นประเทศของ “ศูนย์รวมทางความรู้”
พวกเขาจำเป็นต้องสนับสนุนมหาวิทยาลัยของตนด้วยการลงทุนที่ถูกต้องและเหมาะสม
อะไรคือสาระสำคัญที่นักเรียนต่างชาติมองหาจากผลการจัดอันดับนี้?
ผมจะพูดเพียงแค่ว่า “จงเรียนรู้” จากสิ่งที่คุณเห็น
ถ้าคุณเป็นคนที่สนเรื่องของชื่อเสียงและความโด่งดังของมหาวิทยาลัยที่มีผล
ต่อคุณสมบัติของคุณ ก็ถูกต้องแล้วที่คุณจะมองหามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด
ซึ่งตารางผลสำรวจนี้ก็บอกสิ่งนั้นให้กับคุณ
ผมอยากจะบอกต่อว่า ไม่ว่าจะเป็นตารางจากผลสำรวจอะไรก็ตาม
คุณควรอ่านโดยรู้ถึงระเบียบที่มาของมัน และมองหาสิ่งที่คุณต้องการ
บางครั้งสิ่งที่คุณสนใจที่สุด ก็อาจไม่สามารถวัดเป็นค่าออกมาได้ หรือ
อาจจะไม่มีข้อมูลเพียงพอในระดับโลก ดังนั้น
คุณควรใช้ผลสำรวจเหล่านี้เป็นเหมือนจุดเริ่มต้น
และควรใช้มันอย่างระมัดระวัง เพราะถึงแม้มันจะเป็นข้อมูลที่ดี
แต่มันก็ไม่ได้บ่งบอกในรายละเอียด คุณควรจะหาเพิ่มเติมต่อไป