นร.3,423 คนสะอื้น..เหตุ สทศ.ประกาศคะแนน GAT-PAT พลาด!!

UploadImage

สทศ.รับพลาดลืมปิดระบบแม่ข่ายทดสอบประกาศผล ทำให้นักเรียน 17,000 คนเห็นคะแนนชุดที่ไม่ถูกต้อง กว่า 3,400 คนคะแนนลดลง ยืนยันการตรวจไม่ผิดพลาด เผยวิเคราะห์คะแนนโอเน็ตพบเด็กไทยสอบผ่านร้อยละ 58 ขณะที่คะแนน GAT-PAT แนวโน้มไม่ต่างจากเดิม ยืนยันเนื้อหาข้อสอบมีมาตรฐาน เดินหน้าผลักดันใช้โอเน็ตเป็นส่วนหนึ่งของการสอบจบ ม.3 และ ม.6

รศ.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) แถลงสรุปวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ระดับ ม.6 ปีการศึกษา 2554 และการทดสอบความถนัดทั่วไปและความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (GAT-PAT) ภายหลังประกาศผลคะแนนให้นักเรียนทราบเมื่อวันที่ 23 และ 27 มีนาคมที่ผ่านมา โดย รศ.สัมพันธ์ เปิดเผยผลการวิเคราะห์จุดตัดเกณฑ์ขั้นต่ำการสอบผ่านของการสอบโอเน็ตครั้งล่า สุด พบว่ามีนักเรียนร้อยละ 58 ที่มีคะแนนสอบผ่าน โดยวิชาที่มีนักเรียนสอบผ่านมากที่สุดคือสุขศึกษา ร้อยละ 87 สอบผ่านน้อยที่สุดคือภาษาอังกฤษ ร้อยละ 22 ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประชาชนอาจคิดว่าเกณฑ์ขั้นต่ำการสอบผ่านควรจะอยู่ที่ร้อยละ 50 แต่ที่จริงแล้วจุดตัดในแต่ละวิชาแตกต่างกัน

ส่วนการสอบ GAT-PAT ครั้งที่ 2/2555 รศ.สัมพันธ์ เปิดเผยว่า วิชาที่มีผู้ได้คะแนนเฉลี่ยมากที่สุด คือ ความถนัดทางวิชาชีพครู (PAT5) 156.03 คะแนน ส่วนวิชาที่มีผู้ทำคะแนนได้เต็ม 300 คะแนน ได้แก่ วิชาความถนัดทั่วไป (GAT) ขณะที่ยังมี 5 วิชาที่มีผู้สอบได้คะแนน 0 ซึ่งคาดสาเหตุเป็นไปได้ทั้งการไม่ทำข้อสอบ การทำบางส่วน และการตอบผิดทั้งหมด ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบย้อนหลังกับการสอบ GAT-PAT อีก 8 ครั้งที่ผ่านมา พบว่า อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน

รศ.สัมพันธ์ กล่าวถึงปัญหาในการประกาศผล GAT-PAT เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) ซึ่งนักเรียนหลายคนตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดพลาด จนเป็นเหตุให้ สทศ.ต้องปิดปรับปรุงระบบชั่วคราวและประกาศผลใหม่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ว่า เป็นปัญหาเกี่ยวกับระบบการประกาศผล ซึ่งตามปกติจะมีการทดสอบระบบด้วยข้อมูลชุดหนึ่ง ก่อนที่จะมีการเปิดระบบประกาศผลอย่างสมบูรณ์แบบด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ปรากฏว่า ในการประกาศผลเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ลืมปิดเครื่องแม่ข่ายตัวทดสอบซึ่งมีข้อมูลไม่สมบูรณ์ดังกล่าวจน ทำให้นักเรียนบางคนเข้าเว็บไซต์แล้วพบข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จึงเร่งแก้ไขให้ถูกต้องทันที

รศ.สัมพันธ์ กล่าวว่า ภายหลังปรับปรุงระบบให้ถูกต้อง พบว่ามีนักเรียนได้เห็นคะแนนเพิ่มขึ้น 14,174 คน คิดเป็นร้อยละ 8.69 และมีนักเรียนเห็นคะแนนลดลง 3,423 คน คิดเป็นร้อยละ 2 รวมมีนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ 17,597 คน จากผู้สอบทั้งหมด 163,034 คน ซึ่ง สทศ.จะสายตรงบอกนักเรียนที่คะแนนเปลี่ยนแปลง ส่วนบุคคลที่ยังสงสัยขอให้เข้ามาตรวจสอบกระดาษคำตอบได้ ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดและบทเรียนที่ สทศ.จะต้องเฝ้าระวัง และไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าปัญหาดังกล่าวเกี่ยวกับเฉพาะระบบประกาศคะแนน ไม่เกี่ยวกับระบบการตรวจกระดาษคำตอบ ซึ่งมีขั้นตอนกระบวนการที่ละเอียดรอบคอบและให้ผลที่ถูกต้องแน่นอน

รศ.สัมพันธ์ ยังยืนยันมาตรฐานของข้อสอบทั้งหมดว่าอยู่ในขอบเขตของหลักสูตร และมีค่าความยากและอำนาจการจำแนกในระดับที่เหมาะสม โดยจะเดินหน้าสู่การผลักดันให้ใช้การสอบโอเน็ตเป็นการสอบเพื่อจบการศึกษา ระดับชั้น ม.3 และ ม.6 ซึ่งมั่นใจและสามารถประกันคุณภาพข้อสอบได้

ด้าน ศ.กิตติคุณ สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานกรรมการ สทศ. กล่าวว่า ข้อสอบอยู่ในระดับมาตรฐาน โดยจะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการกับผู้ออกข้อสอบมากขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพของข้อสอบในครั้งต่อไป เนื่องจากผู้ออกข้อสอบจะต้องมีความสามารถในการรู้จักเด็กที่ความสามารถอยู่ ในขั้นต่ำ นอกจากนั้น ในการประกาศผลสอบครั้งต่อไป มีแนวคิดว่าจะนำผลการสอบเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ สทศ.ก่อนมีการประกาศผล เพื่อตรวจสอบความถูกต้องซ้ำอีกครั้ง ขณะที่จะเดินหน้ารวบรวมจัดตั้งธนาคารข้อสอบ โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 2-3 ปีจะมีข้อสอบในคลังมากเพียงพอที่จะประกาศผลพร้อมเฉลยข้อสอบได้ทันที

นายสุกิจ ริ้วพิทักษ์ หัวหน้ากลุ่มสารสนเทศ สทศ. กล่าวว่า ระบบการตรวจกระดาษคำตอบของ สทศ.มีความถูกต้องเชื่อถือได้ โดยจะมีการแบ่งเป็นสองคณะทำงานเพื่อตรวจคู่ขนานกัน แล้วนำคะแนนมาเปรียบเทียบว่าตรงกันหรือไม่ รวมทั้งจะมีการสุ่มตรวจขั้นสุดท้ายอีกครั้ง ส่วนขณะนี้ สทศ.ยังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจกระดาษคำตอบข้อสอบโอเน็ต ป.6 และ ม.3 อีก 10 ล้านใบ ซึ่งถือว่าเป็นงานที่หนักมาก ขณะนี้เพิ่งผ่านขั้นตอนการอ่านเก็บข้อมูลจากกระดาษคำตอบเท่านั้น

ส่วนบรรยากาศที่ สทศ.ชั้น 36 อาคารพญาไทพลาซ่า มีนักเรียนชั้น ม.6 จากหลายโรงเรียนทยอยเดินทางมายื่นคำร้องขอดูกระดาษคำตอบในวันแรกกว่า 100 คนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นการขอดูทั้งโอเน็ต และ GAT-PAT มีทั้งบางวิชาและทุกวิชาที่ตนเองสอบ โดยให้เหตุผลว่าคะแนนที่ออกมาน้อยกว่าที่คาดไว้ หรือบางคนมาดูเพราะรู้สึกไม่เชื่อมั่น ภายหลังระบบการประกาศผลมีปัญหาจนต้องปิดปรับปรุง แล้วพบว่าภายหลังกลับมาประกาศผลอีกครั้ง หลายคนมีคะแนนเพิ่มขึ้น บางคนก็มีคะแนนลดลง นอกจากนั้น ยังมีนักเรียนคนหนึ่งมาขอดูกระดาษคำตอบโอเน็ต ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 59.57 ทำให้พลาดโอกาสการเข้าเรียนแพทย์เนื่องจากเกณฑ์ขั้นต่ำอยู่ที่ร้อยละ 60.-สำนักข่าวไทย