กระทรวง
ศึกษาธิการ เตรียมดำเนินการโครงการ "English Speaking Year 2012"
โดยวางแผนให้ ๑ วันใน ๑ สัปดาห์
ทั้งครูและนักเรียนนักศึกษาสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรมต่างๆ
เพื่อเป็นการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘
รวมทั้งให้เกิดความกล้าที่จะพูด
โดยไม่ต้องกังวลการสื่อสารตามไวยากรณ์ที่ถูกต้อง
พร้อมจะเปิดตัวโครงการในวันจันทร์ที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔
![UploadImage](http://www.enn.co.th/uploads/contents/20111219161916.jpg)
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิด เผยว่า เนื่องจากในปี ๒๕๕๘ ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งภาษาอังกฤษมีความสำคัญในการใช้เพื่อการสื่อสาร ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะส่งเสริมให้สถานศึกษาทุกระดับทุกระบบในสังกัด ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารมากขึ้น โดยในปี ๒๕๕๕ จะประกาศให้ เป็นปีของการส่งเสริมการสื่อสารภาษาอังกฤษ ภายใต้โครงการ English Speaking Year 2012 ที่กำหนดให้ภายใน ๑ สัปดาห์ จะต้องมี ๑ วันที่ครูและนักเรียนนักศึกษาได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน และใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เช่น จัดมุมภาษาอังกฤษ การฝึกนักเรียนเป็นมัคคุเทศก์ เป็นต้น นอกจากนี้ ศธ.จะมีการอบรมพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมภาษาอังกฤษให้กับครูทั่วประเทศด้วย
วัตถุประสงค์ของการดำเนินการตามโครงการ นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและส่งเสริมการสื่อสารภาษาอังกฤษระหว่างครูและนักเรียน รวมทั้งต้องการฝึกความกล้าในการที่จะพูดหรือสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ โดยในขั้นต้นยังไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะพูดหรือสื่อสารแบบใดให้ถูกหลัก ไวยากรณ์ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ. หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เพื่อวางแผนการทำงานภายใต้โครงการดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม
ปลัด ศธ. กล่าวว่า ในวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ ศธ.จะเปิดตัวโครงการดังกล่าว และจะทยอยเริ่ม ดำเนินการในโรงเรียนที่มีความพร้อมก่อนจะขยายไปเรื่อยๆ จนคนส่วนใหญ่ของประเทศไทยสามารถพูด สื่อสาร และใช้ภาษาอังกฤษได้ พร้อมกันนี้จะดำเนินการจัดอบรมครูทั่วประเทศให้มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งการสื่อสาร และการเรียนการสอน โดยจะดำเนินการกิจกรรมตามโครงการ ร่วมกับสถานทูต องค์กรต่างประเทศ หรือตัวแทนจากสถาบันภาษาเข้าร่วม เช่น AUA British Council ฯลฯ โดยโรงเรียนนานาชาติก็จะมีส่วนสำคัญเข้ามาช่วยอบรมพัฒนาครูเพื่อไปสอนในราย วิชาอื่นๆ ด้วย เช่น ศัพท์ช่างของอาชีวศึกษา เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้มอบให้ผู้ตรวจราชการ ศธ. ไปสำรวจความพร้อมของโรงเรียนต่างๆ โดยจะแบ่งเป็นพื้นที่ เช่น พื้นที่สีฟ้า-ยังไม่พร้อม สีเขียว-มีความพร้อมปานกลาง สีชมพู-มีความพร้อมมาก เป็นต้น เพื่อเป็นตัวชี้วัดให้เห็นว่าหากพื้นที่ใดมีปัญหาก็จะได้เข้าไปแก้ไขปัญหา ได้ตรงจุด โดยจะพยายามสร้างแรงจูงใจให้กับโรงเรียนด้วย เช่น หากโรงเรียนใดสามารถดำเนินการได้สัมฤทธิผล ก็อาจจะมีรางวัลโดยให้ทุนไปศึกษาดูงานในประเทศอาเซียน เป็นต้น
ขอขอบคุณ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ