สช.เล็งเจียดงบ1.2พันล้านแจกแท็บเล็ตน.ร.'ป.2-ม.6'

UploadImage

สช.เล็งเจียดงบ1.2พันล้านแจกแท็บเล็ตน.ร.'ป.2-ม.6'
 
         นายชินภัทร ภูมิรัตนเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ One Tablet Pc per Child หรือ  จัดหาคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้นักเรียนชั้น ป.1 ตามนโยบายของรัฐบาลว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)กำลังรอดูผลการเสนอขอแปรญัตติงบประมาณ 2555 ว่าที่ สพฐ.เสนอไป 6,000 ล้านบาทจะได้รับจัดสรรเท่าไร โดยในจำนวนนี้ เป็นงบจัดซื้อแท็บเล็ตชั้น ป.1 ประมาณ1,700 ล้านบาท ที่จะจัดสรรให้นักเรียนชั้น ป.1 ทุกคนและเพิ่มราคาต่อเครื่องแท็บเล็ตเป็น 6,000 บาท จากเดิม 3,400 บาทส่วนระดับชั้นป.2-ม.6 นั้น ยังต้องรองบที่ขอแปรญัตติเช่นกัน

          "จะเริ่มจัดซื้อจัดจ้างได้เมื่อใดนั้น ต้องรอให้ตัวเลขงบนิ่งก่อนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นกระบวนการที่กำหนดไว้อยู่ แล้วเรามีหน้าที่กำหนดสเปกให้พร้อมและเปิดกว้างกับทุกฝ่ายจากนั้นก็ให้เขต พื้นที่การศึกษาไปดำเนินการ"เลขาธิการกพฐ.กล่าว และว่า ส่วนกรณีที่จะมีการนำงบหนังสือเรียนบางส่วน ในโครงการเรียนฟรีเรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ของโรงเรียนเอกชน มาจัดซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียนเอกชนชั้น ป.2-ม.6 นั้น ในส่วนของ สพฐ.ตนคิดว่าที่สุดต้องว่ากันตามกลุ่มสาระการเรียนรู้เพราะการจะบอกว่านำ แท็บเล็ตมาทดแทนหนังสือเรียนต้องชัดเจนว่าทดแทนส่วนไหนได้บ้างและต้องดูว่า กลุ่มสาระไหนเหมาะที่จะนำแท็บเล็ตมาทดแทนหรือใช้หนังสือเรียนให้น้อยลงและ ต้องฟังโรงเรียนด้วย โดยขณะนี้สพฐ.กำลังสำรวจความต้องการของโรงเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ป.2-ม.6 เพื่อจัดสรรแท็บเล็ตเพิ่มให้ในปี 2555 และสำรวจด้วยว่าโรงเรียนใดพร้อมจะรับการจัดสรรอย่างไรก็ตาม หากสพฐ.จำเป็นต้องนำงบหนังสือเรียนมาจัดซื้อแท็บเล็ตเพิ่มจะต้องเป็นกลุ่ม สาระวิชาที่ใช้กับแท็บเล็ตได้ไม่ใช่ดูความต้องการของนักเรียนเพียงส่วนเดียว

          ด้านนายชาญวิทย์ทับสุพรรณ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่าการเจียดงบหนังสือเรียนมาจัดซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้นป.2-ม.6 นั้นสช.มีงบดังกล่าวอยู่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งหากจะจัดสรรแท็บเล็ตให้นักเรียนครบทุกคนต้องใช้งบ 6-7 พันล้านบาท ดังนั้น จะให้โรงเรียนสำรวจว่ามีความพร้อมหรือไม่หากต้องการแท็บเล็ตจะต้องไม่ซื้อหนังสือเรียนและหากศธ.มีนโยบายจัดสรรให้ครบทุกคนสช.ก็จะเสนอของบเพิ่มจาก ศธ.



ขอบคุณหนังสือพิมพ์มติชน
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต