นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา ว่า ได้มีการหารือกันใน 3 เรื่อง คือ 1.การขยายความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลชัยภูมิ กับสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
โดยให้โรงพยาบาลชัยภูมิ
เป็นโรงพยาบาลฝึกแพทย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน เพราะโรงพยาบาลชัยภูมิ
มีความพร้อมในเรื่องของสถานที่ในการฝึกอบรมแพทย์ พยาบาล
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ก็มีความพร้อมและต้องการที่จะเข้าร่วม ทั้งนี้
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้รับนักศึกษาแพทย์มาแล้วคือ ที่จ.บุรีรัมย์
และสุรินทร์ โดยจะขอเพิ่มจ.ชัยภูมิอีก 20 คน
ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับสำนักงานการอุดมศึกษา
เพื่อที่จะขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการผลิตแพทย์เพิ่ม
ในส่วนของการผลิตพยาบาล
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี รับนักศึกษาเพียงปีละ 48 คน
จะขอเพิ่มอีกเป็นปีละ 80 คน
เพราะขณะนี้มีอาจารย์ที่มีคุณวุฒิตามหลักเกณฑ์ของสภาพยาบาล
มีความพร้อมด้านสถานที่ฝึกงานและเห็นว่าจะมีโอกาสได้รับเพื่อจะสนองตอบการ
ขาดแคลนพยาบาลของประเทศเรื่องที่ 2.การขอจัดตั้งศูนย์การแพทย์ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เนื่อง จากขณะนี้มีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ที่มีจำนวนเตียงเกิน 400 เตียง เพียง 1 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงต้องการผลักดันให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพิ่มขึ้นเป็นแห่งที่ 2 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีมาเมื่อปี 2538 ให้จัดตั้งคณะแพทย์ มีวงเงินดำเนินการ 4,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศจึงได้ชะลอโครงการ ดังนั้นจึงขอสร้างโรงพยาบาลขนาด 700 เตียง ในวงเงิน 1,770 ล้านบาท
เรื่องที่ 3.การขอจัดตั้งคณะทันตแพทย์ศาสตร์ ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทยมีสถานศึกษาที่เปิดสอนทันตแพทย์ศาสตร์ 8 แห่ง โดย 4 แห่ง อยู่ในกรุงเทพมหานคร จึงขอจัดตั้งคณะทันตแพทย์ศาสตร์ อยู่ระหว่างเสนอเรื่องไปยังสำนักงานการอุดมศึกษาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ได้รับความเห็นชอบต่อไป
“การที่ได้มาปรึกษาหารือกับมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุรนารีในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันเพื่อที่จะทำงานด้านสาธารณสุข โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ใช้บุคลากร ส่วนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีจะเป็นผู้ผลิตบุคลากร ในบางส่วนก็จะร่วมมือกัน บางส่วนจะเป็นเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ บางส่วนจะเป็นเรื่องของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้จะได้นำผลการหารือครั้งนี้ เสนอคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเพื่อจะดำเนินการต่อไป คาดว่าจะมีการนำเรื่องทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรีได้ไม่น่าเกินต้น เดือนมีนาคม” นพ.สุรวิทย์ กล่าว
ขอขอบคุณ เดลินิวส์