ด้วยการที่เสียมราฐเป็นเมืองที่เจริญขึ้นมาก มีโรงแรมกว่า 10,000 ห้อง ทำให้ในอดีตที่ไม่มีมหาวิทยาลัยในเมืองนี้เลย ปัจจุบันกลับอุดมไปด้วยสถาบันอุดมศึกษามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศเป็นรองแค่นครหลวง พนมเป็ญ เหตุผลก็คือธุรกิจท่องเที่ยวได้ดึงดูดคนหนุ่มสาวของครอบครัวที่ทำเกษตรกรรม เดินทางมาทำงานในอาชีพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Tour guides, Receptionists, Bartenders และ Waitress
หลังจากเลิกงานพวกเขาก็ผันตัวเองไปสู่การเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย ในสาขาต่าง ๆ เช่นFinance, English หรือ Accountingเป็นต้น
มหาวิทยาลัยเอกชน 5 แห่งที่ตั้งขึ้นในเมืองนี้ มีส่วนช่วยพลิกฟื้นโอกาสของคนทำงานในประเทศที่ครั้งหนึ่งได้ชื่อว่า ยากจนที่สุดในเอเชีย ให้มีความรู้ สานฝันพวกเขาเหล่านี้สู่การมีโอกาสในการศึกษาระดับสูง ได้ปริญญามาประดับฐานะ โดยตัวหนุนในการเข้าสู่ระบบการศึกษาได้มาจากประสบการณ์จริงในการทำงาน ที่ทำให้มีทักษะด้านภาษาอังกฤษที่พัฒนาขึ้นมากพอสมควร
Khim Borin ไกด์หนุ่มวัย 26 ปีซึ่งลง ทะเบียนเรียนมหาวิทยาลัยในสาขากฎหมาย เผยว่า เขาต้องการเป็นนักกฎหมาย แต่การที่ต้องทำงานพานักท่องเที่ยวชมปราสาท ขึ้น ๆ ลง ๆ ท่ามกลางแดดที่ร้อน เสร็จจากนั้นแล้วก็ไปเรียนในเวลากลางคืน บางครั้งก็มีปัญหาบ้าง โดยเฉพาะความอ่อนเพลียที่ทำให้ไม่พร้อมในการเรียน บางวันก็ต้องบอกให้เพื่อนคอยปลุก ถ้าเห็นว่าเผลองีบหลับไป
ด้วยการมีงานทำ มีโอกาสก้าวหน้าทางการศึกษา นักศึกษาที่ทำงานในสายอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็มีปัญหาต่าง ๆ กันไป แต่บางคนก็ให้คำนิยามว่า“แม้จะเหนื่อยหนักบ้าง แต่ก็มีความสุข”
ในปัจจุบันมหาวิทยาลับ 5 แห่งในเสียมราฐที่ตั้งกระจายอยู่รอบ ๆ เมือง มีสถิติจำนวนนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนกว่า 10,000 คน บรรยากาศในแคมปัสต่าง ๆ จะเงียบสงบในช่วงกลางวัน แต่เมื่อพระอาทิตย์ตกดินเมื่อใด ก็จะคึกคักด้วยเสียงรถมอเตอร์ไซด์ของนักศึกษาที่เดินทางมาเรียน
อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ Columnist - New Straits Times หรือที่ http://www.nst.com.my/opinion/columnist/boom-town-for-higher-education-1.39496#ixzz1li3c7dbE