สทศ. ลุยรื้อสอบตรง 'แบ่ง7กลุ่มอาชีพ' ให้รับหลักสูตรใหม่ สพฐ.เล็งปรับโอเน็ต
"สทศ."
พร้อมปรับระบบสอบตรงผ่านเคลียริ่งเฮาส์ เป็น 7
กลุ่มอาชีพให้สอดรับกับหลักสูตรใหม่ของสพฐ. ระบุอาจต้องปรับระบบสอบO-NET
พ่วงตามไปด้วย อดีตประธาน ทปอ.เบรกรื้อสอบตรงชี้เพิ่งจัดสอบเป็นปีแรก
ต้องดูผลประเมิน การนำไปใช้ตรงเป้าหมายหรือไม่
เผยยังไม่มีรูปแบบที่จะดำเนินการได้
จากกรณีที่นายวรวัจน์
เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ
มีแนวคิดที่จะปรับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษา
ในระบบรับตรงผ่านเคลียริ่งเฮาส์ โดยจะปรับจากการสอบวิชาสามัญ 7 วิชา
เป็นการสอบ 7 กลุ่มอาชีพเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสูตรมัธยมเชิงปฏิบัติการ 7
กลุ่มอาชีพที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
และยังเป็นการช่วยให้เด็กไม่ต้องวิ่งรอกสอบ
อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่นักเรียน และผู้ปกครองด้วยนั้น
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.55 นายสัมพันธ์พันธุ์พฤกษ์
ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวว่า
การจะปรับเรื่องใดก็ตามคงต้องดูทั้งระบบ
โดยที่ผ่านมาการวัดและการประเมินผลนักเรียน
ได้ยึดตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ดังนั้นหากจะมีการปรับหลักสูตรเดิมให้เป็นหลักสูตรมัธยมเชิงปฏิบัติการฯ
ก็คงต้องมีการปรับระบบการสอบใหม่ด้วย
ซึ่งคงไม่ใช่เพียงแต่ปรับการสอบวิชาสามัญ 7 กลุ่มอาชีพเท่านั้น
แต่การสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ก็คงต้องมีการปรับรูปแบบการสอบด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้รูปแบบใหม่จะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องรอดูโครงสร้างหลักสูตรใหม่ที่จะ
เกิดขึ้นก่อนจากนั้นจะมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
"การสอบวิชาสามัญ 7 วิชา
เป็นการทดสอบที่สอดคล้องกับหลักสูตรที่ใช้ในปัจจุบันเพราะฉะนั้นก็ยังถือว่า
เป็นการสอบที่เหมาะสม และยังช่วยไม่ให้เด็กต้อง วิ่งรอกสอบ
รวมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้วย แต่เมื่อเปลี่ยนหลักสูตรใหม่
การวัดและประเมินผลก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย
แต่ทั้งนี้การจะเปลี่ยนอะไรก็ควรต้องมีการแจ้งล่วงหน้าให้เด็กได้ทราบและ
เตรียมตัวก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
จะต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน
และประกาศให้เด็กได้ทราบว่าจะเริ่มใช้หลักสูตรใหม่เมื่อใดและการสอบรับตรง
รูปแบบใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อใดด้วย"
ผอ.สทศ. กล่าวและว่า สำหรับการออกข้อสอบ 7 กลุ่มอาชีพ ที่
รมว.ศึกษาธิการ จะมอบให้สภาคณบดีแต่ละสาขาเป็นผู้ออกข้อสอบนั้น
เรื่องนี้คงดำเนินการเหมือนการออกข้อสอบทั่วไป
โดยสทศ.จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องข้อสอบเพียงแต่เชิญผู้แทนจากสภาคณบดีเข้ามา
ร่วมพิจารณา และออกข้อสอบร่วมกันอย่างไรก็ตามสำหรับการจัดสอบวิชาสามัญ 7
วิชา
เพื่อนำคะแนนไปใช้ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาในระบบรับ
ตรงผ่านเคลียริ่งเฮาส์ ประจำปีการศึกษา 2555 ที่จัดสอบพร้อมกันทั่วประเทศ
ระหว่างวันที่ 7-8 ม.ค.นั้น ในภาพรวมยังคงเรียบร้อยดี
โดยขณะนี้ยังไม่มีรายงานการทุจริตเข้ามาส่วนการขาดสอบเท่าที่ได้รับรายงาน
เบื้องต้น พบว่าขาดเพียง 10% เท่านั้น
นายประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
(มทส.)ในฐานะอดีตประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า
การสอบวิชาสามัญ 7 วิชา เพิ่งจะเริ่มสอบในปี 2555 เป็นปีแรก
โดยมีผู้เข้าสอบไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนคน ดังนั้น
ทปอ.คงต้องศึกษาวิเคราะห์ถึงประโยชน์ของ 7 วิชาสามัญ
รวมถึงรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงาน ที่นำคะแนน 7 วิชาสามัญไปใช้ก่อน อาทิ
กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.)
สภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทยที่ประชุมคณบดีวิทยาศาสตร์แห่ง
ประเทศไทยเป็นต้น
ว่าสามารถคัดเด็กได้ตรงตามความถนัดหรือศักยภาพหรือไม่เพราะก่อนหน้านี้พบ
ปัญหาว่าการคัดเด็กเข้าไปเรียนในสาขาวิชาต่างๆ โดยเฉพาะคณะวิศวกรรมศาสตร์
วิทยาศาสตร์ พบปัญหาว่าได้เด็กไม่ตรงตามความถนัดอาทิ คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าเด็กที่เข้าไปเรียนในชั้นปีที่ 1 สอบตกถึง 90%
"หากพบว่าผลการศึกษาวิเคราะห์7 วิชาสามัญ
สามารถคัดเด็กเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยได้ตรงตามศักยภาพของเด็กทปอ.ก็ควรต้อง
ใช้ 7 วิชาสามัญในการคัดระบบรับตรงต่อไปอีก อย่างน้อย 2 ปีเพราะ
ทปอ.ยึดหลักการว่าการจะเปลี่ยนแปลงระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อใน
สถาบันอุดมศึกษา ควรต้องประกาศให้นักเรียนโดยเฉพาะระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
รับทราบล่วงหน้า 3 ปี เพื่อเตรียมตัว"
นายประสาท กล่าวและว่า สำหรับนโยบายของนายวรวัจน์
ที่ต้องการให้จัดสอบ 7 กลุ่มอาชีพ แทนสอบ7 วิชาสามัญนั้น ต้องยอมรับว่า
ขณะนี้ยังไม่มีรูปแบบที่จะดำเนินการได้
และไม่แน่ใจว่าจะสามารถใช้ได้ทันปีการศึกษา 2555 ตามที่ รมว.ศึกษาธิการ
ต้องการหรือไม่เนื่องจากหลักสูตรมัธยมเชิงปฏิบัติการฯเป็นหลักสูตรใหม่
เมื่อสภาคณบดีต่างๆทำหลักสูตร 7 กลุ่มอาชีพเสร็จแล้ว
ก็ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับครูก่อนเพราะถ้าครูผู้สอนไม่เข้าใจแล้ว
ก็จะไม่สามารถไปสร้างกระบวนการเรียนการสอนแก่นักเรียนได้
ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ