แจก Tablet การเมือง? เด็กไทย?

ถ้ามีการโหวตบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกในรอบทศวรรษนี้
ผมว่า คุณสตีฟ จอบส์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Apple น่าจะชนะแบบไร้คู่แข่ง
 
ที่ว่าเขามีอิทธิพลระดับโลกก็เพราะเขาสามารถทำให้คนมากมายในโลกเปลี่ยนแปลงวิธีคิด
เปลี่ยนแปลงวิธีดำเนินชีวิตได้มากที่สุดในโลกในรอบ 10 ปีนี้
ไม่ว่าคนคนนั้นจะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Mac หรือไม่
แม้คนที่ไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์จาก Apple  ไม่เคยดูหนังแอนนิเมชั่นจากบริษัท Pixar Animation Studios ของเขาเลย
ก็ยังไม่พ้นได้รับผลกระทบจาก สิ่งที่เขาคิดและทำ
 
และด้วยการคิด iPad อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่คล้ายเครื่อง Netbook แต่เบากว่า ใช้ง่ายกว่า
คล้ายโทรศัพท์ iPhone แต่ใหญ่กว่าและเหมาะกับการอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มากกว่า
แค่ปีเดียวที่ iPad  ออกสู่ตลาดก็ทำให้ผู้คนทั่วโลกหันมาสนใจอุปกรณ์ลักษณะนี้กันอย่างล้นหลาม
บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกเร่งผลิต Tablet PCs  ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็คือ iPad ที่ทำบนระบบปฏิบัติการอื่น
Samsung เรียกมันว่า Galaxy Tab
Blackberry ก็ทำ Tablet PCs  กับเขาบ้าง ใช้ชื่อว่า PlayBook
ด้าน Hewlett-Packard หรือ HP ก็ได้ส่ง HP TouchPad ออกมาสู้ศึก Tablet  ในตลาดโลก
ทุกบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ต่างแข่งขันผลิต Tablet ของตนให้ดีที่สุด
เพื่อสนองความต้องการของลูกค้า
 
 
ปรากฏการณ์ Tablet fever นี้ ส่งผลกระทบถึงวงการต่างๆ เป็นอย่างมาก รวมถึงวงการการศึกษา
 
สหรัฐอเมริกามีการพัฒนาการศึกษาในรูปแบบห้องเรียนแห่งอนาคต
โดยสนับสนุนให้ครูทำบทสอนที่ให้เด็กนักเรียนได้ใช้ Tablet เพื่อเชื่อมต่อหลักสูตร
และข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นคว้าหาความรู้
 
ในยุโรป มีการตั้งหน่วยงานส่งเสริมให้มีการพัฒนาการเรียนการสอนในแนวทางนี้ แก่โรงเรียนและครู
โดยการให้ทุน และให้ความรู้
 
ฝั่งเอเชียของเรา
ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาคน
ได้เล็งเห็นประโยชน์มหาศาลของอุปกรณ์ชิ้นนี้
จึงประกาศให้ การเรียนการสอนระดับประถมเป็นดิจิตอลทั้งหมดภายในปี 2014
โดยจะมีการนำ Tablet  เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพื่อให้การศึกษาแบบ Tablet-based เสร็จสมบูรณ์แบบในปี 2015 ซึ่งก็คืออีก 4 ปีข้างหน้า
รัฐบาลเกาหลีใต้ลงทุนให้บทเรียน ข้อสอบ หนังสือทั้งหมดจะอยู่ในรูปแบบดิจิตอล
ในอนาคตเด็กเกาหลีใต้ไม่ต้องมีหนังสือเยอะๆ อีกแล้ว
 
ในสิงคโปร์ เพื่อนบ้านของเรา ได้มีการนำ iPad มาใช้ในห้องเรียนชั้นมัธยม
เพื่อสอนในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภูมิศาสตร์แล้ว
 
 
ประเทศไทยเราเองนับได้ว่าเป็นประเทศที่ตื่นตัวในเรื่องนี้ระดับผู้นำของภูมิภาค
ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขา สกอ. ผู้ร่างนโยบายการศึกษาพรรคเพื่อไทย
ได้ประกาศนโยบายแจก Tablet  ฟรีให้เด็ก ป.1 ทุกคน
สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการการศึกษาไทยอย่างมาก
 
แน่นอนว่า เมื่อใดที่มีการเปลี่ยนแปลง ก็ย่อมมีการต่อต้านเป็นของธรรมดา
หลายฝ่ายต่างเกิดความกังวล ทำให้มีคำถามมากมายเช่น..
เด็กไทย ป.1 จะใช้ Tablet ได้อย่างไร จะเกิดประโยชน์อะไร ?
จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างไร?
เด็กจะเอา Tablet  ไปโยนลงน้ำไหม ?
วันๆ คงจะเอาแต่เล่นเกมส์  ดูคลิปโป๊?
ผู้ปกครองจะเอา Tablet ไปจำนำหรือเปล่า?
พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นต้นเรื่องนี้ จะมีแผนฟันค่าคอมมิชชั่น (อันเป็นธรรมชาติของนักการเมืองไทย) หรือเปล่า?
 
ทุกอย่างล้วนมีข้อดีข้อเสีย ไม่มีสิ่งใดดี-เลวสมบูรณ์ไปทุกอย่าง
ในฐานะสื่อมวลชนจากรายการคิดต่างสร้างปัญญาที่ผมเป็นพิธีกรคู่อยู่
ก็อยากนำเสนอมุมมองเรื่องการแจก Tablet นี้ ในด้านที่ดี
 
ถ้าพูดถึงแค่การแจก Tablet  มันไม่ได้มีค่าอะไรเลยครับ
Tablet มันก็แค่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องให้เด็กประถมใช้เสียด้วยซ้ำ
แม้กระทั่งเด็กมัธยม ก็ยังไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดประโยชน์อย่างไร ทำให้คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้นอย่างไร
แต่ถ้าใช้อย่างถูกวิธี ตั้งใช้ทำอย่างจริงจัง Tablet มันเกิดประโยชน์มหาศาลครับ
 
ผมมองว่าการแจก Tablet มันไม่ใช่แค่การแจก "เครื่อง Tablet" ครับ
ถ้าเราทำให้ดี การแจก Tablet หนึ่งเครื่อง มันหมายถึงหนังสือเรียนจำนวนมหาศาล
มันหมายถึงการแจกห้องสมุดชั้นดีให้กับเด็กทุกคน
มันหมายถึงการแจกสมุดจดบันทึก สื่อการเรียนการสอนแบบมัลติมีเดีย
เครื่องอัดเสียง สมุดรายงาน Presentation ฯลฯ
Tablet หนึ่งเครื่องยังสามารถเข้าสู่ฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ อินเตอร์เน็ต
 
ถ้าเราพิมพ์หนังสือในห้องสมุดแจกให้นักเรียนทุกคน ต้องใช้งบประมาณมหาศาลครับ แจกเท่าไหร่ก็ไม่พอ
ถ้าเด็กมี Tablet แล้วเราทำหนังสือเป็น ebook แจกได้ไม่จำกัด
ให้นักเรียนอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ อ่านแล้วก็อปปี้ได้ จดบันทึกได้ เอาไปทำรายงานได้
การทำรายงานก็ทำ Presentation นำเสนออาจารย์และเพื่อนๆ ได้
โดยมีโปรแกรมสำหรับทำการนำเสนอผลงานอยู่บน Tablet นั่นเอง เป็นห้องเรียนแห่งอนาคต
 
เพราะฉะนั้น ความสำเร็จของ Tablet
ผลที่จะเกิดประโยชน์กับเด็กนักเรียน ตลอดจนวงการการศึกษา ค่อนข้างมีเยอะ ถ้าจะมองในแง่ดี
 
ประเด็นในการซื้อเพื่อฟันค่าคอมมิชชั่น ผมคิดว่า ในตอนนี้ พรรคเพื่อไทยเอง น่าจะระวังตัวพอสมควร
เรียกได้ว่า ไม่มีรัฐบาลไทยชุดไหนอีกแล้ว ที่จะโดนเพ่งเล็งเท่ารัฐบาลชุดนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพ่งเล็งในเรื่องของการทุจริต
 
ในเรื่องนี้น่าจะตัดปัญหาไปได้ เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทยแทบจะกระดิกตัวไม่ได้อยู่แล้ว
เพราะคนจ้องจับผิดเยอะ ด้านประชาชนเอง
ก็มีการตั้งกลุ่มเพื่อเตรียมตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ไว้รอแล้วครับ
 
ในส่วนเด็กนักเรียน น่าจะเป็นมิติใหม่ เป็นโอกาสใหม่ของการเรียนการสอนในชั้นประถม 1 ในยุคนี้
ที่เขามีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เข้าถึงวิชาความรู้ ได้มากกว่าที่เคยเป็นมา
อาจจะยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่เราจะให้ครูดีๆ ทั้งประเทศไปอยู่ใน Tablet เพื่อไปสอนเด็กในพื้นที่ห่างไกล
สร้างความเท่าเทียมกันในการเรียนรู้ได้ทั้งประเทศ
 
สิ่งที่เราต้องทำ มันไม่ใช่แค่การแจก Tablet นะครับ ผมคิดว่าต้องทำสิ่งต่อไปนี้
1. ระบบ wi-fi ความเร็วสูง อย่างทั่วถึง เพราะถ้าไม่อย่างนั้น Tablet ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ หรือเกิดประโยชน์น้อย
อย่าให้เหมือนสมัยเราแจกเครื่องคอมพิวเตอร์ไปยังโรงเรียน
พอครูได้ห้องคอมพิวเตอร์แล้วก็ล็อคห้องเอาไว้ ไม่ให้เด็กใช้ หรือถ้าต้องใช้ก็ต้องขออนุญาตวุ่นวาย
ครูเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์จึงหวงเครื่องไว้เพราะกลัวเด็กทำพัง
 
เราต้องป้องกันไม่ให้กรณีอย่างนี้เกิดขึ้นอีก
ต้องมีการจัดอบรมครูทั่วประเทศเรื่องวิธีการใช้ Tablet   เรื่องการใช้ Tablet เป็นสื่อการสอน
ไม่ต้องห่วงว่าเด็กจะใช้ไม่เป็นครับ เด็กยุคนี้ไวต่อเทคโนโลยีอยู่แล้ว
วางเครื่องไว้เฉยๆ เขามาจับประเดี๋ยวเดียวก็เล่นเป็นแล้วครับ
 
2. Application หรือโปรแกรม เป็น Courseware  (หลักสูตรการสอน) ให้ทำมาเป็นภาษาไทยเยอะๆ
ข้อเสียเปรียบของเด็กเราคือ อ่านภาษาอังกฤษไม่ได้
แต่ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ebook หนังสือ ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่ในโลกเป็นภาษาอังกฤษ
ดังนั้นเราต้องทำข้อมูลดังกล่าวให้เป็นภาษาไทย
คงไม่ใช่ให้กระทรวงทำเอง เพราะจะใช้งบประมาณมหาศาล
ต้องพยายามทำให้ครูสร้างเนื้อหาลงบน  application ที่กระทรวงจัดทำให้
เราต้องอำนวยความสะดวกให้ครูสามารถใช้ Tablet ให้เกิดประโยชน์ได้
 
3. เนื้อหาต่างๆ ในรูปดิจิตอลที่เรามีอยู่แล้วอย่างมากมาย อยู่ตามห้องสมุดมหาวิทยาลัยต่างๆ
ที่เราเคยใช้งบประมาณลงทุนไปแล้วมหาศาล
แล้ว Tablet นี่แหละครับ จะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้
ขอแค่มี Application ดีๆ ที่จะช่วยให้เด็กหาข้อมูลเหล่านั้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างมากที่สุด
ต่อไม่ไม่ใช่แค่เด็ก ป.1 ครับ พี่ ป.2-3 ก็อยากจะใช้ พี่มัธยมก็อยากใช้
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้แจกนักเรียนทุกคนเลยครับ
 
เป็นเรื่องที่ต้องลงทุนครับ
ทีงบประมาณสร้างรถไฟฟ้าแพงๆ  สร้างถนนแพงๆ เรายังจ่ายได้
แต่นี่เรากำลังจะสร้างคนครับ สร้างให้เป็นคนไทยยุคใหม่ที่ทันสมัย แข่งขันกับต่างประเทศได้
 
มองโลกในแง่ดีนะครับ
 
หวังว่าโครงการ Tablet เพื่อไทย คงจะประสบความสำเร็จ
เพราะถ้าไม่จริงใจต่อการทำ ยังคงใช้การศึกษามาหาเสียง (และหาเงิน) ผมว่าก็คงอยู่ได้ไม่นาน
รัฐบาลที่แล้วมีโครงการดีๆ บางโครงการ เช่น โครงการสร้างแหล่งเรียนรู้ให้ชุมชน
โครงการ Fixit Center ของกรมอาชีวะ เหล่านี้เป็นโครงการที่น่าจะสานต่อ
 
ไม่ต้องมาเลือกข้างว่าพรรคฉันขึ้นมาแล้ว แกทำอะไร ฉันโละทิ้งหมด .. หวังว่าเราคงไม่เห็นเช่นนั้น
 
ขอกันเถอะครับ
จะเล่นการเมือง ก็ไม่เป็นไร
จะแบ่งสี แบ่งพวกแบ่งฝ่าย ก็ไม่เป็นไร
แต่ขอร้อง ยกเว้นเรื่องการศึกษา สักเรื่องเถอะครับ