สพฐ.-สทศ. ตั้งกรอบใช้โอเน็ต 2 แนว

เมื่อ วันที่ 8 พ.ค.ที่โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ มหานาค สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สทศ.จัดประชุมเสวนาเรื่อง "การใช้
คะแนนโอเน็ตเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน" โดยมี ผอ.โรงเรียนทั้งประถมศึกษา และมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ผู้ปกครอง และนักเรียน กว่า 50 คนเข้าร่วมประชุม
นาย ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)  เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การใช้คะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต เป็นส่วนหนึ่งในการจบการศึกษา ตามหลักสูตรในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6  ในปีการศึกษา 2555 ถูกพิจารณาออกเป็น 2 แนวทาง แนวทางแรกคือการเพิ่มผลคะแนนโอเน็ตเป็นอีกหนึ่งเกณฑ์ของ สทศ.คืออยู่ในระดับพอใช้ขึ้นไป หรือ ร้อยละ 20 ขึ้นไป สำหรับการจบการศึกษา ส่วนแนวทางที่ 2 คือ ใช้ผลคะแนนโอเน็ตเป็นส่วนหนึ่งในการจบการศึกษาตามหลักสูตรในอัตราส่วน ระหว่างผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร หรือ GPA ต่อผลคะแนนโอเน็ต เช่น 80 ต่อ 20 หรือ 90 ต่อ 10

"ผลคะแนนโอเน็ตจะนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดรรงบประมาณให้กับสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษา ดังนั้นหากเขตพื้นที่ใดมีผลคะแนนโอเน็ตต่ำจะจัดอยู่ในบัญชีรายชื่อเฝ้าระวัง ต้องจัดกิจกรรมกระตุ้นการเรียนการสอนแบบเข้มข้น เพื่อเกิดการเชื่อมต่อห่วงโซ่คุณภาพทางการศึกษา ที่ส่งผลให้การปฏิรูปการศึกษาประสบความสำเร็จ"  เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

นายชินภัทร กล่าวต่อว่า มุมมองจากนักวิชาการ และผู้ปกครองส่วนใหญ่เห็นว่าสมควรนำผลคะแนนโอเน็ตมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจบ การศึกษา แต่ต้องมีแนวทางที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดผลด้านลบเมื่อมาใช้ เช่น เกิดกระแสการแห่ไปเรียนกวดวิชา ปฎิเสธเด็กที่เรียนไม่เก่ง หรือการเพิ่มความแตกต่างโรงเรียนในเมืองและชนบท เป็นต้น ทั้งนี้หากนำคะแนนโอเน็ตมาใช้อย่างเป็นทางการในปีการศึกษา 2555 นี้ถือว่าไม่เร็วเกินไป และสัดส่วนที่นำมาใช้เพียงร้อยละ 20 เท่านั้น แต่จะมีผลทางจิตวิทยามากกว่า เพราะจะทำให้เด็กมีความกระตือรือร้นในการสอบมากขึ้น  ส่วนครูผู้สอนจะต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับจุดอ่อนของเด็กแต่ละคน อย่างไรก็ตามประเด็นการหารือในครั้งนี้จะนำเสนอต่อนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช  รมว.ศึกษาธิการ ได้พิจารณานำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประกาศเป็นกฎกระทรวง ที่กำหนดใช้อย่างครอบคลุมในสถานศึกษาทุกสังกัด

ด้าน นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผอ.สทศ. กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางทั้งสอง แต่แนวทางแรกจะต้องให้เวลาสถานศึกษาเตรียมตัวมากกว่านี้  เพราะเหมือนทำงานแบบก้าวกระโดดเกินไป ตนเห็นว่าแนวทางที่ 2 เหมาะสมและมีความเป็นไปได้มากกว่า ขณะเดียวกัน สทศ. อยากเสนอสัดส่วนคะแนน GPA ต่อ โอเน็ต ในปีการศึกษา 2555 ควรเริ่มจาก 80 ต่อ 20 ปี 2556 ใช้ 70 ต่อ 30 ปี 2557 ใช้ 60 ต่อ 40 และปี 2558 เป็นต้นไปใช้ 50 ต่อ 50  เนื่องจากการประเมินผลการเรียนรู้ในระดับสถานศึกษายังไม่มีเอกภาพ และไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงต้องใช้คะแนนโอเน็ตมาถ่วงดุล เพื่อเทียบเคียงคุณภาพให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอแนะว่าการนำคะแนนโอเน็ตมาเป็นส่วนหนึ่งของการจบหลักสูตร ควรขยายให้ครอบคลุมวิชาอื่นๆ นอกเหนือจากวิชาหลัก 5 กลุ่มสาระ เช่น วิชาศิลปะ ดนตรี  กีฬา เป็นต้น เพราะเด็กบางคนไม่ได้มีความสามารถในเชิงวิชาการทั้งหมด นอกจากนี้ยังเสนอว่าควรจะมีการสอบโอเน็ตในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ด้วย เพราะเด็กจะมีพื้นฐานทางวิชาการมากขึ้น 

ที่มา : ข่าวสด